สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ วินาทีนี้ คงไม่มีเทรนด์ไหนแรงแซงโค้งเท่ากับ เทรนด์ของการรักษ์โลก ห่วงใย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปได้นะคะ เนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หรือที่เรามักคุ้นหูกับคำว่า Climate Change สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงทุกปี ทำให้เกิดเทรนด์พฤติกรรมที่แสดงออกถึงการใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกของมนุษย์มากขึ้น
ซึ่งเทรนด์รักษ์โลก ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ มีอยู่ 5 เทรนด์หลัก ๆ ที่แค่ปรับไลฟ์สไตล์หรือเลือกมากขึ้น คุณก็จะเป็นอีกคนที่จะช่วยให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น จะมีเทรนด์อะไรบ้างนั้นไปติดตามกันค่ะ
แค่เปลี่ยนอาหารที่กินก็ช่วยโลกได้ เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกจากฝีมือมนุษย์มากถึง 35% โดยเฉพาะการผลิตอาหารจากสัตว์ และการทำฟาร์มปศุสัตว์ ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าการผลิตอาหาร Plant-Based ถึงสองเท่า
ด้วยความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น และนวัตกรรมอาหารที่ทำให้อาหารจากพืชทดแทนการกินเนื้อสัตว์ได้ ทำให้เทรนด์การกินอาหาร Plant-Based เป็นที่นิยมมากขึ้น
Fast Fashion หรือกระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่เน้นความรวดเร็ว ใช้ต้นทุนต่ำ ทั้งต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรง เสื้อผ้าที่ออกมาจึงราคาถูก เข้าถึงคนได้ทุกระดับ แต่ต้องแลกมาด้วยการทำลายสิ่งแวดล้อม และการริดรอนความเป็นมนุษย์ของแรงงานที่ถูกเอาเปรียบ
อุตสาหกรรมแฟชั่นนอกจากจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรน้ำเป็นอันดับสองของโลก การผลิตเสื้อผ้าฝ้ายหนึ่งตัวต้องใช้ปริมาณน้ำมากถึง 3,000 ลิตร นอกจากนั้นสีที่ใช้ย้อมเสื้อผ้ายังก่อให้เกิดมลพิษในน้ำอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง ผู้บริโภคในยุคใหม่ที่มีความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนจึงเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อและส่งเสียงไปยังแบรนด์ผู้ผลิตให้เปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ใครจะไปเชื่อว่า การลงทุนก็ช่วยโลกได้ ปัจจุบันเทรนด์การลงทุน ESG (Environmental Social และ Governance) หรือการลงทุนที่คำนึงถึงการสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ที่พิจารณาปัจจัยด้าน ESG เป็นส่วนสำคัญในพอร์ตการลงทุนระยะยาว
รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคน้ำมันแพง ทำให้ผู้บริโภคต้องการหาทางเลือกใหม่ ๆ สอดรับกับนโยบายจากภาครัฐในการสนับสนุนให้ใช้รถ EV ลดภาษีขาเข้า ภาษีสรรพสามิต พร้อมให้เงินหนุนเพิ่มอีกด้วย ภาคธุรกิจพลังงานก็พากันกระโดดเข้ามาลงทุนในพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภค
นอกจากนั้นยังมีสถาบันการเงินที่เข้ามาร่วมวงด้วย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ที่เพิ่งจะเปิดตัวโปรเจกต์ GO GREEN Together ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ การปล่อยแคมเปญสินเชื่อ GREEN ZERO ให้สินเชื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมโปรโมชันขับฟรี ผ่อน 0 บาท ในระยะเวลา 90 วัน
คาดการณ์ว่าในไทยจะมีการติดตั้ง Solar Rooftop หรือหลังคาโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยและโรงงาน เนื่องจากมีราคาถูกลงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเทคโนโลยีการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับการใช้ในเชิงพาณิชย์
อย่างไรก็ดี 5 เทรนด์ที่กล่าวข้างต้น มีราคาค่อนข้างแพง ทั้งเสื้อผ้า อาหาร การลงทุน หรือรถยนต์ไฟฟ้า แต่เชื่อว่าหากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม Go green เพื่อลดโลกร้อน ในอนาคตอันใกล้นี้ สิ่งเหล่านี้จะราคาถูกลงแน่นอนค่ะ
ขอบคุณที่มา https://www.facebook.com/