สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เป็นเกษตรอุตสาหกรรมที่มีระบบกำกับดูแล โดยมีพระราชบัญญัติและหน่วยงานในการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และดำเนินงานมากว่า 30 ปี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่นพิษ PM 2.5 เช่น การแก้ไขปัญหาอ้อยลักลอบเผา การลงโทษปรับโรงงานที่รับอ้อยไฟไหม้เกินเกณฑ์ที่กำหนด การจัดหาเครื่องสางใบอ้อย การส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้ และลดการเผาใบอ้อยหลังตัด รวมถึงการขอความร่วมมือโรงงานช่วยประกันราคารับซื้ออ้อยสด การสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุน การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เป็นต้น

และล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้เสนอมาตรการ in cash & in kind ที่เป็นมาตรการที่มีการสนับสนุนด้านการเงิน โดยให้รางวัลแก่เกษตรกรที่ไม่เผาอ้อยและโรงงานที่ไม่รับอ้อยเผา และมาตรการเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการผลิต ซึ่งผู้แทนชาวไร่อ้อยกำลังทบทวนและจะนำเข้าที่ประชุม กอน. เพื่อพิจารณามาตรการที่กระทรวงเสนอต่อไป

โดยกระทรวงอุตสาหกรรม จะมีการศึกษาผลดีผลเสียและความคุ้มค่าของการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งการหาแนวทางและมาตรการเพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิตอื่นที่ทำให้เกิดความยั่งยืนและไม่เป็นภาระต่องบประมาณของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดตามมติ ครม.

สำหรับมาตรการรูปแบบใหม่ "in cash & in kind" จะช่วยเกษตรกรที่ไม่เผาอ้อย ผ่านการให้เงินช่วยเหลือรูปแบบใหม่ โดยชาวไร่ที่มิได้ลักลอบเผาไร่อ้อยของตนเอง หรือไร่อ้อยของผู้อื่นตลอดช่วงฤดูการผลิตปี 2565/2566ให้ได้รับการสนับสนุน ทั้งในรูปแบบ

in cash รูปแบบที่ให้เป็นตัวเงิน

in kind รูปแบบที่ให้เป็นระบบการบริหารจัดการไร่อ้อยและการตัดอ้อยด้วยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรม

พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมบริหารจัดการไร่อ้อย ซึ่งจะย้ำทุกหน่วยงานบังคับใช้และกำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย ภายใต้วงเงินที่เหมาะสมและไม่เป็นภาระงบประมาณเกินความจำเป็น เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของรัฐในการจัดการกับปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างยั่งยืน

หากมาตรการ in cash in kind นี้ผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มจะขำข้อมูลมาสื่อสารแก่พี่น้องชาวไร่ในลำดับต่อไป

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.thansettakij.com/