
อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย เป็นหนึ่งในภาคเกษตรที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรและแรงงานในระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้:
แหล่งสร้างงานและรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย
- เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยกว่า 190,000 ครัวเรือน หรือคิดเป็นจำนวนประชากรมากกว่า 800,000 คน ทั่วประเทศ
- สร้างรายได้หมุนเวียนรวม ประมาณ 120,750 ล้านบาท
- จากผลผลิตอ้อยกว่า 100 ล้านตัน (ตันละ 1,200 บาท)
- และใบอ้อยประมาณ 5 ล้านตัน (เฉลี่ยตันละ 500 บาท)
ระบบราคาที่เป็นธรรม ด้วย “กลไกแบ่งปันรายได้”
- ราคาซื้อขายอ้อย ไม่กำหนดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ใช้ “ระบบแบ่งปันรายได้” ที่มีคณะกรรมการร่วมกัน 3 ฝ่าย ได้แก่
- ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อย
- โรงงานน้ำตาล
- หน่วยงานภาครัฐ
- ช่วยให้เกิดความ โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ผลิตกับผู้แปรรูป
สนับสนุนเกษตรกรทั้งด้านต้นทุนและตลาด
- เงินส่งเสริมและปัจจัยการผลิต เพื่อช่วยลดภาระต้นทุน
- มีแหล่งรับซื้อผลผลิตแน่นอน โดยมี กฎหมายรองรับ
- โรงงานน้ำตาลต้องรับซื้อผลผลิตในราคาที่กำหนด
- ไม่สามารถรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่รัฐกำหนดได้
- ช่วยลดความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) ในการขายผลผลิต
ส่งเสริมความรู้เพื่อความมั่นคงในอาชีพ
- มีการให้ความรู้ด้าน การปลูกอ้อย การบริหารจัดการไร่ และพัฒนาอาชีพ
- ทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน และสามารถวางแผนอนาคตของตนเองได้
- อาชีพเกษตรกรชาวไร่อ้อย จึงเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงครอบครัวอย่างพร้อมหน้า มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข
สร้างงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม
- อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล สร้างการจ้างงานมากกว่า 2 ล้านคน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
- ครอบคลุมหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น
- อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
- อุตสาหกรรมพลังงาน
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า
- อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ฯลฯ
- รวมถึงการจ้างแรงงานในชุมชน เช่น
- การเตรียมดิน
- การปลูกและดูแลอ้อย
- การเก็บเกี่ยวและขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงาน
อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทย ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังเป็น รากฐานสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก ที่เชื่อมโยงไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม และช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ที่มา : วารสารมิตรชาวไร่