หากพูดถึง พืชที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่หัวจรดท้าย สำหรับพืชไร่ ต้องยกให้ “น้องอ้อย” ของมิตรชาวไร่เรานะคะ ส่วนพืชสวนคงเป็นพืชชนิดใดไปไม่ได้ ต้องยอมเขาเลยค่ะสำหรับ “น้องกล้วย” พืชที่ให้คุณประโยชน์ทุกสัดส่วน ต้นก็กินได้ เป็นทั้งอาหารคนอาหารสัตว์ ใบนำมาใช้ประโยชน์มากมาย ผลคือแหล่งรวมวิตามินที่ล้ำเลิศ มีประโยชน์ต่อร่างกายคนทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญ ดอกกล้วย หรือ หัวปลี อาหารติดเทรนด์ที่ฝรั่งมังค่ายกให้เป็นตัวแทนเนื้อสัตว์ได้อย่างแนบเนียน
หัวปลี เป็นส่วนดอกของกล้วยที่นำมากินได้ทั้งดิบและสุก เช่น กินดิบเป็นผักเคียง กินกับผัดไทย หรือน้ำพริก ซึ่งจะมีรสชาติฝาด ๆ แต่ถ้าต้มสุกจะมีรสชาติหวานอร่อย ซึ่งปัจจุบันเทรนด์กินอาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง และหนึ่งในนั้น หัวปลีก็ติดโผอาหารแคลอรี่ต่ำ แต่ประโยชน์สูง ที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก
สำหรับคนไทยเอง เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเมนูอาหารที่ทำจากหัวปลี เพราะวัตถุดิบคู่ครัวตัวนี้อยู่คู่กับบรรพบุรุษไทยมาช้านาน สืบต่อจนมาถึงลูกหลาน จึงไม่แปลกที่หัวปลียังคงเป็นที่นิยมในบ้านเรา
วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มขอนำประโยชน์เด่น ๆ ของหัวปลีมาเล่าให้ผู้อ่านได้ทราบกันค่ะว่า เขามีดีอย่างไร ทำไมผู้คนถึงได้หลงรักเขาขนาดนี้ ^^
หัวปลีบำรุงน้ำนม ในทางยาแพทย์แผนไทยหรือยาพื้นบ้าน ถือว่าหัวปลีเป็นอาหารบำรุงน้ำนมชั้นเลิศของสตรีที่ให้นมบุตร
หัวปลีช่วยบำรุงเลือด เนื่องจากในปลีกล้วยมีธาตุเหล็กอยู่จำนวนมากพอสมควร จึงมีส่วนในการบำรุงเลือด แก้ภาวะโลหิตจาง
หัวปลีช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ สารสกัดจากหัวปลีสามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้มากถึง 47.88-87.63% ซึ่งมีการทดลองจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทดลองที่มีอาการแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากผลการดื่มสุรา โดยให้นำหัวปลีมาเผาแล้วคั้นเอาแต่น้ำมากินครั้งละประมาณ 1/2 แก้ว ควรกินก่อนกินอาหารแต่ละมื้อสัก 1 ชั่วโมง หัวปลีจะเป็นยาช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร
หัวปลีช่วยลดน้ำตาลในเลือด โดยนำหัวปลีกล้วย 1 หัว มาย่างไฟให้เปลือกชั้นนอกไหม้เกรียม แล้วนำไปต้มกับน้ำ (ใส่น้ำพอท่วมหัวปลี) ให้เดือด แล้วกินน้ำยาหัวปลีต่างน้ำให้หมดในวันนั้น วันรุ่งขึ้นต้มใหม่ กิน 7 วัน จะช่วยบรรเทาอาการเบาหวานหรือช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
หัวปลีช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพราะในปลีกล้วยยังมีสารสำคัญในกลุ่มฟีโนลิก เช่น แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ถ้ากินเป็นประจำย่อมช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน
หัวปลีมีแคลอรีต่ำ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ธรรมดา มีแคลเซียมสูง มีโปรตีน มีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี และเบตา-แคโรทีน ถ้าได้ทำเป็นเมนูอาหารกินเป็นประจำ ก็คืออาหารเพื่อสุขภาพชั้นเลิศดี ๆ นี่เอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านแล้วต้องร้อง ว้าว! ให้คุณค่าทางโภชนาการของหัวปลีกันเลยใช่ไหม ทราบอย่างนี้แล้ว บ้านไหนยังมีพื้นที่เหลือ ขอพื้นที่ปลูกกล้วยเพื่อผลิตหัวปลีส่งตลาดบ้างนะคะ นอกจากมีเก็บไว้กินที่บ้านแล้ว ยังมีโอกาสสร้างตลาดหัวปลีไว้ส่งให้ลูกค้าที่รักสุขภาพ เพิ่มรายได้อีกช่องทางด้วยค่ะ.
ที่มาข้อมูลและภาพ
https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_106146