สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ ช่วงนี้โรคระบาดในคนอย่างโควิด-19 ดูผ่อนคลายลงบ้าง ภายหลังมาตรการผ่อนปรนจากศูนย์ควบคุมโควิด-19 แม้ว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ยังไม่หมดไปจากประเทศไทย แต่การให้ความร่วมมือตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด และการปรับตัวของประชาชนด้วยการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ ทำให้คนไทยอยู่กับโรคได้อย่างสบายใจขึ้น ในช่วงที่วัคซีนกำลังถูกลองผิดลองถูกให้ปลอดภัยที่สุด เราทุกคนต้องดูแลตัวเอง ไม่ประมาทการ์ดอย่าตกกันต่อไป
นอกจากโรคระบาดในคนแล้ว ช่วงนี้สิ่งที่น่าสนใจในแวดวงข่าวเกษตรที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือต้องตั้งใจฟังคือ โรคระบาด “ลัมปี สกิน” ซึ่งเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับวัวและควาย กำลังระบาดหนักในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเมียนมา
ลัมปี สกิน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบในโค กระบือ อาการที่ปรากฎคือ เกิดตุ่มเนื้อบนผิวหนังและเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ทำให้ตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม โค กระบือที่ได้รับเชื้อจะมีไข้ หายใจลำบาก ในโคนมอาจพบน้ำนมลด อัตราป่วยของโรคนี้มีมากกว่าร้อยละ 5 ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำให้กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการด่วนเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้โรคไวรัสในโค กระบือ อย่าง ลัมปี สกิน ระบาดเข้ามาในประเทศไทย
สำหรับมาตรการของกรมปศุสัตว์ในการป้องกันโรคระบาดลัมปี สกิน มีดังนี้
เหตุผลที่กระทรวงเกษตรฯ มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ที่เมียนมา เพราะว่าหากเกิดขึ้นในประเทศไทยจะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการสั่งปิดด่านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปแล้ว และเตรียมเปิดด่านนำเข้าโค กระบือ ในวันที่ 18 มีนาคม 2564 และให้กรมปศุสัตว์ตั้งด่านสกัดการลักลอบนำเข้าสัตว์อย่างเข้มงวด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องมาตรการป้องกันแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ รวมทั้งตรวจสถานที่กักสัตว์เพื่อให้ได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบรายงานการเกิดโรคลัมปี สกิน ซึ่งหากมีการระบาดของโรคดังกล่าวเกษตรกรจะประสบภาวะขาดทุนในการเลี้ยงโคกระบือ และยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจการค้าและผลผลิตในประเทศอีกด้วย
ที่มาข้อมูลและภาพ