ราคาน้ำตาลยังสูง หลังบราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอล
จากสถานการณ์ราคาน้ำตาลโลกที่ยังพุ่งสูงขึ้น ทั้งจากภาวะสงครามของรัสเซีย-ยูเครน และการนำอ้อยไปผลิตเอทานอลของประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลก ทำให้ปีนี้ราคาอ้อยดีตามไปด้วย ถือว่าเป็นกำไรต่อความเหน็ดเหนื่อยของพี่น้องชาวไร่
ทั้งนี้นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่โรงงานน้ำตาลบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลใหญ่สุดของโลก หันนำน้ำตาลไปผลิตเอทานอลแทนเพราะได้กำไรที่สูงกว่าเนื่องจากระดับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวิกฤติการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกเฉลี่ยทรงตัวระดับสูงต่อ จะส่งผลดีต่อระดับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูกาลผลิตปี 2565/66 อยู่ในเกณฑ์สูงตามไปด้วย คาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ในระดับ 1,000 บาทต่อตันขึ้นไป
แม้ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกสูงขึ้นมาจากการผลิตน้ำตาลทรายของบราซิลลดลงไปพอสมควรเพราะหันไปผลิตเอทานอลแทนทำให้น้ำตาลในตลาดลดลง แต่ในแง่ปริมาณผลผลิตน้ำตาลของบราซิลปีนี้ก็ยังคงสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 7% หรือมีการคาดการณ์อยู่ที่ 34.5 ล้านตัน
สำหรับการหีบอ้อยในไทยฤดูผลิตปี 2564/65 ที่เปิดหีบตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนปิดหีบไปเรียบร้อยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2565 รวมระยะเวลาหีบอ้อย 152 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั่วประเทศที่ 92.07 ล้านตัน
หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สิ่งที่กังวลในฤดูหีบปี 2565/66 ที่กำลังเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่คือภาวะต้นทุนต่าง ๆ จะแพงขึ้นมากโดยเฉพาะราคาปุ๋ย สารเคมี ที่ปรับขึ้นสูงกว่าเดิมเท่าตัว และหากราคาปุ๋ยยังไม่มีแนวโน้มลดต่ำลงแต่อย่างใดตราบใดที่สงครามการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังไม่จบ ขณะเดียวกันยังต้องติดตามภาวะราคาน้ำมัน ค่าแรงต่าง ๆ ว่าช่วงปลายปี 2565 ที่จะเข้าสู่ฤดูเปิดหีบจะสูงขึ้นมากน้อยเพียงใดเหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนการผลิตที่จะสูงขึ้น ดังนั้นแม้แนวโน้มราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกมีอัตราที่สูงขึ้นแต่หากเทียบกับต้นทุนที่สูงจึงทำให้เกษตรกรไม่ได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากแต่อย่างใด
เอาเป็นว่าจากสถานการณ์โดยรวมของตลาด มีแนวโน้มที่ดีต่อราคาอ้อยของชาวไร่ ทั้งสงครามยังไม่สงบ และการหันไปผลิตเอทานอลที่ได้กำไรมากกว่าน้ำตาลของบราซิล ทำให้ราคาน้ำตาลยังทรงตัวในระดับสูง ในส่วนนี้จะทำให้การคาดการณ์ราคาอ้อยขั้นต้นของฤดูกาลผลิต 2565/66 จะอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งน้ำปีนี้น่าจะเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของอ้อย แต่ก็อยากให้ชาวไร่อย่าชะล่าใจเรื่องการรับมือน้ำท่วมด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลผลิตในไร่
ที่มาข้อมูล-ภาพ
