หน้าแรก

ขอเพิ่มรูปอีก 1-2 รูปค่ะ

สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ คนเก่งเกษตรสมัยใหม่วันนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ ทายาทเถ้าแก่ไร่อ้อย ที่มุ่งมั่นตั้งใจ เต็มไปด้วยพลังของคนชาวไร่เลือดใหม่ ที่พร้อมสานต่อครอบครัวด้วยความรักและเต็มใจ คุณอุเทน ประยูรวงษ์ หรือพี่เทน ทายาทของพ่อบุญทัน ประยูรวงษ์ มิตรชาวไร่ เจ้าของพื้นที่ปลูกอ้อยกว่า 1,000 ไร่ แห่งสุพรรณบุรี

พี่เทนคือความภาคภูมิใจของพ่อบุญทัน ที่เข้ามาสืบทอดกิจการงานในไร่ต่อจากพ่อ ซึ่งพี่น้องแต่ละคนล้วนมีไร่อ้อยเป็นของตัวเองและทุกคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

เพราะปลูกอ้อย จึงทำให้เรามีทุกอย่างในวันนี้

สำหรับครอบครัวประยูรวงษ์ อ้อยให้ทุกอย่างในชีวิต ทำให้ครอบครัวมีความสุข ปัจจุบันลูกหลานทุกคนได้รับการแบ่งปันไร่จากพ่อบุญทันให้ได้ดูแล พี่เทนดูแลงานเตรียมดินปลูกอ้อย และบริหารจัดการไร่ให้ตรงตามระยะที่กำหนด ตรวจเช็ก งานซ่อมบำรุง ดูแลเครื่องจักรทั้งหมดในไร่ ทั้งรถตัด รถไถขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในไร่อ้อย รวมถึงระบบน้ำในไร่อ้อย

พี่เทนในวัย 38 ปี แต่มีประสบการณ์ทำไร่อ้อยมากว่า 15 ปี หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

ภายหลังเรียนจบ พี่เทนได้เข้าฝึกงานที่โรงกลึงและอู่ซ่อม ไม่นานพี่เทนได้รับการติดต่อจากพ่อบุญทัน เนื่องจากในไร่เจอปัญหาไม่มีแรงงาน พี่เทนจึงตัดสินใจกลับมาช่วยงานในไร่ โดยหน้าที่หลักคือการดูแลซ่อมแซมเครื่องจักร จากนั้นพ่อได้แบ่งไร่ให้บริหารจัดการ พี่เทนจึงได้นำความรู้จากสิ่งที่เรียนมาและประสบการณ์จากการช่วยงานในไร่มาตั้งแต่เด็กผนวกเข้าด้วยกัน จึงทำให้งานในไร่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

“ทำไร่ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะพ่อทำทุกอย่างไว้ให้เราแล้ว เรามีหน้าที่แค่สานต่อ และพัฒนาต่อยอด โดยช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยผ่อนแรงพ่อและคนงาน”

พี่เทนเล่าว่า คนงานในไร่มี 30 กว่าคน แบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยส่วนใหญ่ในไร่นำเครื่องจักรและเทคโนโลยีเข้ามาใช้

“ครอบครัวเรานำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในไร่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น น้องเขย ติดตั้งแอปพลิเคชั่นสั่งเปิด-ปิดน้ำได้ ทำให้สะดวก รวดเร็วขึ้น เรามีโซลาร์เซลล์ 8 ชุด ใช้งานในไร่ บางอย่างก็ใช้เทคโนโลยีควบคู่กับคน เช่น การฉีดพ่นยา ถ้าอ้อยสูง ๆ ก็ใช้โดรนฉีดพ่น ถ้าตรงไหนที่คนเข้าได้ ก็ใช้คน"

วางระบบดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

พี่อุเทนเล่าว่า เพราะมิตรผลส่งเสริมเรื่องน้ำหยด ทำให้ไร่ประยูรวงษ์ วางระบบน้ำหยดไว้ทุกพื้นที่ ไม่ต้องรอฟ้าฝนก็สามารถทำไร่ได้เลย เพียงแค่เตรียมดินให้พร้อม และทำทุกกิจกรรมให้ทันตามระยะเวลาการเจริญเติบโตของอ้อย

“เรื่องน้ำคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด ผมมองว่าการทำเกษตรจะขาดน้ำไม่ได้ เมื่อเราวางระบบน้ำหยดไว้แล้ว เราก็มั่นใจได้ว่า อ้อยของเราได้รับน้ำตามวัยแน่นอน นอกจากนี้การตัดอ้อยสดไว้ใบคลุมดิน ทำให้วัชพืชไม่ค่อยรบกวน การดูแลดินก็ทำได้ง่าย ดินไม่ดีก็ใช้อินทรีย์วัตถุ ใช้เคมีให้น้อย”

อาชีพชาวไร่อ้อยคืออนาคตของเรา

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรต่ออาชีพชาวไร่อ้อย พี่เทนตอบอย่างไม่ลังเลว่า

“ทำไร่เป็นอาชีพที่มีอิสระ ถ้าไม่ไหวเราก็พัก ไหวก็ไปต่อ ทำงานบริษัท เราไม่สามารถหยุดได้เมื่อเราเหนื่อย งานไร่ช่วงไหนฝนฟ้ามาเราก็เร่งทำไป แต่ส่วนมากก็ไม่ว่างหรอก เพราะที่เราเยอะ (หัวเราะ) พ่อเริ่มจากศูนย์ จากที่ไม่มีอะไรเลย จนมีทุกอย่างในวันนี้ ผมก็จะสานต่อจากพ่อ ทำต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ให้ทุกคนได้เห็นว่า การทำไร่อ้อยนี่แหละคือชีวิตของพวกเรา”

การได้เข้ามาสานต่องานในไร่ของพี่เทนและลูกหลานคนอื่น ๆ ทำให้ไร่อ้อยพ่อบุญทัน ลดต้นทุนการดูแลและซ่อมแซมเครื่องจักรได้อย่างมาก รวมถึงการบริหารงานในไร่อย่างครบวงจร และด้วยทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรของพี่เทนซึ่งเป็นทายาท ทำให้ไร่ของครอบครัวประยูรวงษ์ วางแผนจะขยับขยายไร่อ้อยต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ความเก๋าของรุ่นพ่อ บวกกับกึ๋นของรุ่นลูก ทำให้ไร่อ้อยของครอบครัวประยูรวงษ์ เป็นชาวไร่อ้อยตัวอย่างของเขตส่งเสริมอ้อยที่ 7 (หนองปรือ) แห่งโรงงานน้ำตาลมิตรผลด่านช้างได้อย่างน่าชื่นชม

ที่มา : วารสารมิตรชาวไร่

ข่าวปักหมุด