แม้การทำไร่อ้อยในปัจจุบันจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยงานในไร่อ้อยมากขึ้น ทั้งเครื่องจักร อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมการผลิต รวมถึงองค์ความรู้เกษตรสมัยใหม่ที่ช่วยให้การบริหารจัดการไร่อ้อยเน้นวิธีธรรมชาติมากขึ้น พึ่งพาสารเคมีน้อยลง แต่กระนั้นความต้องการใช้สารกำจัดวัชพืชของเกษตรกรยังคงมีอยู่ เนื่องจากหญ้าหรือวัชพืชอื่น ๆ ยังเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตเต็มที่ของอ้อย
ซึ่งสารกำจัดวัชพืชจัดเป็นสารเคมีอันตรายที่ผู้ใช้ต้องศึกษารายละเอียดอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อตัวผู้ใช้เองรวมถึงสภาพแวดล้อม
มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มขอแนะนำหลักการใช้สารกำจัดวัชพืชอย่างถูกวิธี ดังนี้
- เลือกใช้ยาฆ่าหญ้าอย่างถูกวิธี
– เลือกสารกำจัดวัชพืช ให้เหมาะสมกับชนิดของศัตรูพืชนั้นๆ
– เลือกสารกำจัดวัชพืช ชนิดที่มีฤทธิ์ตกค้างสั้น และสลายตัวเร็ว
– ไม่เลือกซื้อสารกำจัดวัชพืช ที่มีพิษรุนแรง
- ใช้ สารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือยาฆ่าหญ้า เท่าที่จำเป็น และใช้เพียงชนิดเดียวในการฉีดพ่นแต่ละครั้ง
- อ่านรายละเอียดบนฉลากอย่างละเอียด และปฎิบัติตามข้อแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด รวมทั้งทำความเข้าใจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้นๆ และหมั่นหาข้อมูลเพิ่มเติม
- ผสมสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือยาฆ่าหญ้า ตามขนาดที่กำหนดไว้บนฉลาก ไม่ผสมเจือจางหรือเข้มข้นเกินไป
- ใช้อุปกรณ์ คนหรือผสม ยาฆ่าหญ้า (ห้ามใช้มือ หรืออวัยวะสัมผัสโดยตรง)
- ผู้ที่ฉีดพ่น หรือผู้เกี่ยวข้องในขณะฉีดพ่น ต้อง สวมหน้ากาก ถุงมือ ชุดป้องกัน หรือเสื้อผ้าหนาๆที่มิดชิด
- ยืนอยู่ในตำแหน่งเหนือลม ขณะที่ฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า
- ฉีดพ่นยากำจัดวัชพืชให้ห่างจาก ต้นปาล์ม ห้ามให้ละอองของยาโดนใบปาล์ม หรือต้นปาล์มโดยตรง
- ห้ามเป่าหรือดูดหัวฉีด ท่อลมที่อุดตันด้วยปาก
- ไม่สูบบุหรี่ ดื่มน้ำ หรือทานอาหาร ในขณะที่ฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า
- ควรใช้ในปริมาณที่พอดี และฉีดพ่นให้หมดในแต่ละครั้ง
- ระมัดระวังการฟุ้งกระจายของละอองน้ำยา อย่าพ่นยา ในขณะที่ลมมีความเร็วมาก (เกินกว่า 5 เมตร/วินาที หรือ 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
- ห้ามไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปในแหล่งพ่นยา หลังการฉีดยาใหม่ๆ
- เทยาส่วนที่เหลือใช้เก็บเข้าที่ ถ้าทิ้งไว้กลางแดดนานๆ ยาจะสลายตัว ทำให้หมดประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืช
- ชำระร่างกายให้สะอาด ทันทีหลังฉีดพ่นเสร็จ
- หลังการพ่นยาเสร็จแต่ละครั้ง ถอดเสื้อผ้าที่ใช้ออก แล้วซักให้สะอาด
- ไม่ทิ้งยาที่ผสมใช้แล้วไว้ในถังพ่นยา ตัวยาอาจจะกัดโลหะ หรือพลาสติกของถังพ่นยาได้ ตัวทำลายของยาอาจระเหย ส่วนที่เหลือจับตัวกัน ทำให้เหนียว ล้างออกยาก และอาจจะไปอุดตันที่กรองและหัวฉีด
- เมื่อแมลง หรือศัตรูพืช ดื้อยา ควรเปลี่ยนไปใช้สารเคมีชนิดอื่น
- เว้นระยะในการเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังการฉีดพ่น ตามที่ระบุไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด
- เก็บยาฆ่าหญ้า ในที่มิดชิด เก็บให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง เก็บให้ห่างจากที่เก็บอาหารหรือที่ประกอบอาหาร
ด้วยหลักการดังกล่าวข้างต้น มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มเชื่อว่า หากเกษตรกรหรือมิตรชาวไร่ที่ใช้สารกำจัดวัชพืช ปฏิบัติตามทุกข้ออย่างเคร่งครัด ทุกอย่างจะเห็นผลชัดเจนทั้งผลของการกำจัดวัชพืช และผลกระทบที่จะไม่เกิดขึ้นต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ
http://www.cpiagrotech.com/knowledge-079/
https://www.bbc.com/thai/thailand-45312985